รีวิว the-last-of-us ทำไมเรื่อง The Last of Us ถึงเป็นซีรีส์ ที่มาจากเกม ที่ดีที่สุด ที่คู่ควรแก่การชม ?
รีวิว the-last-of-us เพียงแค่ออนแอร์ EP.1 ทุกคนต่างพูด เป็นเสียงเดียวกันว่า “The Last of Us” มหันตภัย เชื้อราล้างโลก คือผลงานดัดแปลง จากวิดีโอเกม ที่ยอดเยี่ยมที่สุด
โดยเฉพาะการ รีวิวซีรีส์ ของ ท็อป หนอนหนัง กล่าวว่าสิ่งที่ผู้เล่นคุ้นเคย หลากหลายอารมณ์ ที่ผู้เล่นเกม ต่างเคยรู้สึก ถูกมอบชีวิตใหม่ผ่าน SERIES ฟอร์มยักษ์แห่งปีจาก HBO และเพลย์สเตชั่นสตูดิโอ
เท้าความกันสักนิดว่า หนอนหนัง คือใคร หนอนหนังคือช่อง รีวิวหนัง-ซีรีย์ฝรั่ง และในทุกประเทศ ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ได้รีวิวเอาไว้ว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวในช่วง 20 ปีหลังอารยธรรม สมัยใหม่ล่มสลาย จากการแพร่ระบาด ของเชื้อรามรณะ เปลี่ยนให้ผู้คน กลายเป็นอสุรกาย ชายผู้เต็มไปด้วย อดีตอันบอบช้ำอย่าง โจเอล ได้รับการว่าจ้าง ให้พาตัวเด็กสาว ellie สาวน้อยในวัย 14 ปีออกจากเขตคุ้มกัน
แต่แล้วภารกิจเล็ก ๆ กลับต้องกลายเป็น การเดินทางอันโหดร้าย เมื่อทั้งคู่จะต้อง เดินทางเข้าประเทศ สหรัฐอเมริกา และคอยช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน เพื่อความอยู่รอด ในวันที่โลก ไร้ซึ่งความหวัง และเต็มไปด้วย อันตรายที่อยู่รอบ ๆ ตัวเหมือนกับที่ หนอนหนัง tiktok ได้รีวิวเอาไว้
ย้อนกลับไปในปี 2009 ที่ค่ายเกมดัง เจ้าของแฟรนไชส์ หวังจะปลุกปั้น ขึ้นมาใหม่อีกที และหวังกุมหัวใจ ของแฟนคลับผู้หลงใหล ในตัวละครของเกม และเรื่องราวอันยอดเยี่ยม ในเรื่องเล่าถึง เรื่อง ย่อ ความสัมพันธ์ของคน 2 คนผ่านการผจญภัย สุดเข้มข้นและดุดัน ที่จะก่อให้เกิด ความผูกพันอันลึกซึ้ง
เกมเพลย์ทั้งหมด ถูกพัฒนาขึ้นโดย อิงจากความสัมพันธ์ ของตัวละคร ในขณะที่ผู้เล่น ต้องฝ่าฟันความท้าทาย ที่อยู่ตรงหน้า ตัวละครที่ถูกบังคับ ก็กำลังพบกับ บททดสอบครั้งสำคัญ ไปด้วยเช่นกัน ช่วงเวลากว่า 3 ปีครึ่งในการสร้างสรรค์เกมดัง “The Last of Us” เส้นทางการสร้าง ไม่เคยโรยด้วย ไปด้วยกลีบกุหลาบ
เพราะต้องผลักดัน ทุกขีดจำกัด ในแง่ของเทคนิค เพื่อสร้างสรรค์เกม ที่มีความตื่นเต้น และในขณะเดียวกัน ก็ยังต้องสร้าง มาตรฐานใหม่ให้แก่ การเล่าเรื่องบนวิดีโอเกม มีการปรุงแต่งเรื่องราว อย่างพิถีพิถัน เต็มไปด้วยอารมณ์ และความรู้สึก ที่สมจริงที่สุด และมีความเป็นภาพยนตร์ ที่ผสมผสานได้ลงตัว
รีวิว the-last-of-us รวมทุกอารมณ์ ที่ผสมผสานอย่างลงตัว
อารมณ์จากการแสดง ผ่านเทคโนโลยี โมชั่นแคปเจอร์ ได้ถูกแปลงสู่ ภาพกราฟิกในหนัง ได้อย่างแนบเนียน ในขณะที่ผู้เล่น ต่างกลั้นหายใจฆ่าฟัน เหล่าผู้ติดเชื้อชวนสยอง แล้วก็ต้องน้ำตาตก กับความสัมพันธ์ อันแสนติดดิน ของสองคนต่างวัย ที่ต่างเติมเต็มกัน ในวันที่โลกไม่เหลือสิ่งใด ให้รักษาอีกต่อไป
มองโดยผิวเผิน ทุกองค์ประกอบของ The Last of Us ต่างเอื้อต่อการ ดัดแปลงไปเป็น ภาพยนตร์ชั้นเลิศ แต่ในความเป็นจริง มันไม่ง่ายอย่างนั้น จึงทำให้คนที่ชอบ ดูซีรีย์ พอมีความหวัง
ตลอด 10 ที่ผ่านมานั้น มีผู้สร้างหลายคน ต่างวนเวียนเข้ามาร่วมโปรเจค ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ แถวหน้าของวงการอย่าง แซม เรมี่ ทุกคนต่างพบ อุปสรรคเดียวกันคือ การต้องดัดแปลง เนื้อเรื่อง ที่ยาวเกือบสิบชั่วโมง ของวิดีโอเกม ให้มาอยู่ในภาพยนตร์ ความยาวเพียงสองชั่วโมง จนท้ายที่สุด เราก็ได้พบว่า ตัวเลือกที่ดีที่สุด ในการบอกเล่าเรื่องราว คือทางซีรีส์
ท็อป หนอนหนัง ได้ให้ความเห็นว่า ในบางครั้งผู้สร้างหนัง ก็ไม่ได้ต้องการ หยิบเกมชื่อดังมา เพื่อสร้างสิ่งใหม่ ๆ ต่างจากหนังหลายเรื่อง ที่ดัดแปลงมา จากวิดีโอเกม ที่ล้มเหลวในการคว้าใจผู้ชม เพราะไปเปลี่ยนแปลง องค์ประกอบสำคัญ มากจนเกินไป
ช่องรีวิวหนอนหนัง ที่เคยสร้างกระแสในการ รีวิว Nope ส ปอย ได้พูดไว้อย่างน่าสนใจว่า สิ่งที่ผู้เล่นเกม ต้องการที่สุด คือการได้เห็น เรื่องราวที่คุ้นเคย ถ่ายทอดออกมา อย่างซื่อสัตย์ที่สุด กลิ่นอายต้องเหมือนเคย แก่นแท้ของเรื่อง ต้องไม่ถูกเปลี่ยนแปลง
The Last of Us ซี รี ย์ ความสัมพันธ์ อันแสนติดดิน ของสองคนต่างวัย ที่ต่างเติมเต็มให้กัน
แม้เส้นเรื่องจะยังคงเดิม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เขาสามารถหยิบยก ทุกสิ่งจากเกม แล้วเปลี่ยนมาเป็น series ได้ในทันที บางสิ่งที่เวิร์คในเกม ใช่ว่าจะเวิร์คตอนเป็น series เมื่อถูกดัดแปลง เป็นสื่อต่างแขนง บางสิ่งต้องถูกตัดออก บางอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เหมาะสม กับความเป็นซีรีส์
เกิดเป็นการทำงานร่วมกัน อย่างที่ไม่ค่อยมี ให้เห็นบ่อยครั้ง ระหว่างผู้สร้าง เกม และผู้สร้างซีรีส์ ต้องคุยกับผู้เขียนบท ว่าจะรักษา แก่นแท้ไว้ได้อย่างไร ดราม่าของตัวละคร กลายเป็นหมัดเด็ด ที่ใช้ดึงดูดคนดู เห็นได้ชัดจากช่วง 30 นาทีแรกของ Ep.1 ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชม ได้ทำความรู้จักกับ ซาราห์ มิลเลอร์ เด็กสาวผู้ไม่มีโอกาส ได้เติบโตไปกว่านี้
ข้อมูลชุดใหม่ ๆ มากมายถูกเพิ่มเข้า มาเพื่อเติมเต็มโลก ของตัวละคร ให้มีความหมาย และมีมิติกว่าที่เคย เรื่องราวที่ถูกนำมาขยายนี้ ก็ใช่ว่าจะเป็น สิ่งใหม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ หลายฉากที่เพิ่มเข้ามา ต่างอ้างอิงจาก บทดั้งเดิมของเกม ที่ถูกตัดออกไป โดยเฉพาะการทำภาพ CG ที่น่าขนลุก ทำให้นึกถึง รีวิว 100 ขา ที่น่ากลัวไม่แพ้กัน
คนที่เคยเล่นเกม จะสามารถสังเกตได้ ถึงมุมกล้อง แสงสี หรือแม้แต่เสียงเอฟเฟค ที่ต่างใกล้เคียง กับที่เคยถูกใช้ ในวิดีโอเกม แต่สิ่งใหม่ที่ไม่อาจเลี่ยง คือการเฟ้นหา ตัวของนักแสดง ผู้มารับบทเป็น โจเอลและเอลลี่ นักแสดงหนุ่มชาวอเมริกัน เชื้อสายชิลีคนนี้ เคยพิสูจน์ให้ทุกคน เห็นแล้วว่าเขาคนนี้ มีความเป็นแดดดี้ ในตัวเองมากแค่ไหน
โจทย์ที่ยากยิ่งกว่า คือการหาตัวนักแสดงสาว ผู้มารับบทเป็น เอลลี่ เด็กสาววัย 14 ปีที่มีความคิด และจิตใจเหมือนกับ คนอายุยี่สิบปี มีบางคนพร่ำบอกพวกเขา ว่าอยากให้นักแสดง หน้าตาเหมือนกับ ตัวละครในเกมเป๊ะ ๆ แต่พวกเขามองว่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่ แฟนเกมต้องการจริง ๆ
สิ่งที่แฟนๆต้องการใน The last of us ep 5 และในทุกๆอีพี คือความแม่นยำทางอารมณ์ การหาคนหน้าเหมือนในเกม ไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือการหาตัวนักแสดง ที่สามารถถ่ายทอด จิตวิญญาณเดียวกับ ในวิดิโอเกม ออกมาได้อย่างลึกซึ้ง และนั่นสำคัญ ยิ่งกว่าหน้าตา
ถึงแม้ผู้สร้าง จะย้ำอยู่เสมอว่า นี่ไม่ใช่ซีรีส์ซอมบี้ แต่มันคือซีรีส์ เกี่ยวกับผู้คน ที่ต้องรับมือ กับผลกระทบ ที่ตามมาของพวกมัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาพจำที่หลายคนมีต่อ The Last of Us คือภาพของผู้ติดเชื้อ ที่ดูสยดสยอง ทำให้คนที่ ดูซีรีย์ฟรี และเสียค่าสมาชิก ต่างก็ต้องขนลุกไปตามกัน
เขียนโดย -หลงวาริน-