สปอย BROS ยุคนั้นเหมือนว่า จะยังไม่มีการยอมรับความหลากหลายทางเพศ และยังไม่มีหนังเรื่องไหนเลย ที่จะถูกฉายแนว LGBTQ+
สปอย BROS หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องแรก ของฮอลลีวูดอย่างเรื่อง ” BROS เพื่อนชาย ” ฉายจบไปแล้ว ในความยาว 115 นาที ก็เกิดเสียงฮือฮาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากมาย ซึ่งเป็นเสียงวิจารณ์ อย่าง เมา มัน ที่มาในทางบวกมาก ๆ เพราะนี่คือผลงานของ จัดด์ อาพาทาว ที่เคยสร้างภาพยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาล
อย่างเรื่อง The 40-Year-Old Virgin (2005) , Knocked Up (2007) , Funny People (2009) , This Is 40 (2012) , Trainwreck (2015) , The King of Staten Island (2020) และ The Bubble ค่ะ ซึ่งก็มีเสียงวิจารณ์ออกมาในทางบวกเช่นกัน
รีวิว Brothers ในตัวภาพยนตร์เรื่อง BROS ได้มีนักแสดงทั้งหมดมีความหลากหลายทางเพศอีกด้วย ทำให้เรื่องนี้ตัวละครถูกแสดงออกมา อย่างธรรมชาติมากขึ้น โดยมีนักแสดงหลัก ๆ คือบิลลี่ อิชเนอร์ รับบท บ็อบบี้ และ ลุค แม็คฟาร์เลน รับบท แอรอน มาในคู่พระนายที่ใครเห็นจะต้องชอบ เพราะขนาดรูปร่างของนักแสดงทั้งสอง ก็ทำเอาเป็นที่หมายตาของกลุ่มคน LGBTQ+ แล้วเมื่อได้เห็นการแสดงของพวกเขา ก็ยิ่งชวนดึงดูดน่าหลงใหลขึ้นไปอีก
สปอย BROS หนังเรื่องนี้เป็นหนังรอมคอม LGBTQ+ ที่ดีมากอีกเรื่องเลยค่ะ
และยังเป็นเรื่องแรก ของฮอลลีวูดที่ได้ผู้กำกับ นิโคลัส สตอเลอร์ ซึ่งเป็นผู้กำกับที่หายไปนานจากงานสายนี้ แต่เมื่อ นิโคลัส สตอเลอร์ กลับมาแล้วก็ยังทำผลงานได้ดีเสมอ เกิดความลงตัว ความไหลลื่นของบทบาทตัวละคร ที่ไม่มีผิดพลาดหรือขัดกัน และบทที่กำลังไปได้ดี ในหลาย ๆ ฉากที่มีก็นอกจาก จะมีโรแมนติกอยู่บ้างแล้วก็ยังมี คอมเมดี้และดราม่า เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่ลงตัวมาก ๆ
ทำให้ช่วยในเรื่องของอารมณ์ผู้รับชมว่า ไม่น่าเบื่อจนเกินไป เพราะหากหนังเรื่องนี้จะมีแนวแค่เพียง 1-2 แนวมันก็คงน่าเบื่อ แต่ในหนังเรื่อง BROS ไม่ได้น่าเบื่อตรงที่มีหลากหลายแนวให้เข้ามาค่ะ รับชมและเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดในหมู่ LGBTQ+ หรือหญิงชายแท้บางคนก็ชอบเช่นเดียวกัน เพราะในสังคมก็มีหญิงชายแท้บางคน ที่ยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างมาก
เพราะในยุคนั้นเหมือนว่า จะยังไม่มีการยอมรับความหลากหลายทางเพศ และยังไม่มีหนังเรื่องไหนเลย ที่จะถูกฉายในทาง LGBTQ+ นี่จึงเป็นโอกาสสำคัญของการสร้างรายได้มหาศาลให้แก้ผู้สร้างหนัง เพราะหนังเรื่อง BROS ยังไม่มีเรื่องไหนถูกสร้างให้มีสไตล์ ความหลากหลายทางเพศเลย
ซึ่งถือเป็นอีกความสำเร็จ ที่ได้ผลิตหนังดีแบบไม่ซ้ำใครมา แต่ก็น่าเสียดายที่ หนังเรื่อง BROS ไม่สามารถทำรายได้ออกมาได้ดีตามที่ นิโคลัส สตอเลอร์ คาดไว้เท่าที่ควร
เพราะทางค่ายหนังยักษ์ใหญ่ ใช้ทุนสร้างหนัง เรื่อง BROS ไปราว ๆ 40 ล้านเหรียญ และหวังผลตอบรับไว้ที่ 27 ล้านเหรียญเลย แต่ด้วยยุคนั้นสังคมอเมริกันยังไม่มีการยอมรับ ความหลากหลายทางเพศ ในหมู่หญิงชายแท้ ทำให้ตัวหนังทำรายได้ถึงแค่ 4 ล้านเหรียญ ถือเป็นรายได้ที่ตกต่ำและยังไม่ถึงครึ่งของการลงทุนอีกด้วย แต่ยังดีที่หนังเรื่องนี้ถูกเลือกให้ติดอยู่ในอันดับ หนังที่ตลกที่สุดในยุคศตวรรษที่21 เมื่อมีกระแสดีจากคนดูที่เป็น LGBTQ+
แต่ก็ยังได้กระแสแย่จากหญิงชายแท้ ซึ่งนักแสดงหลักอย่าง บิลลี ไอค์เนอร์ และผู้กำกับ นิโคลัส สตอเลอร์ ภาพยนตร์ออกมากล่าวโต้กลับไปแบบไม่แคร์กระแสทางลบว่า “น่าเสียดาย นี่คือโลกที่เรายังอยู่กัน แม้หนังจะมีกระแสวิจารณ์ที่ดีมาก, คะแนน Rotten Tomatoes กับ CinemaScore สูงมาก แต่ชายจริงหญิงแท้ก็ยังไม่ยอมมาดูหนังเรื่องนี้ มันน่าผิดหวัง แต่มันก็เป็นอย่างนี้แหละ” ถือเป็นการโต้กลับออกมาได้ดีเพราะมันให้เราได้รับรู้ถึงมุมมองของผู้ชม และผู้สร้างหนังอีกด้วย
เริ่มเรื่องมาก็จะกล่าวถึง บ็อบบี้ที่มีอาชีพเป็น นักสื่อสารมวลชนหรือผู้กำกับหนัง กำลังหาเงินมาระดมทุน มาเปิดพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของ LGBTQ+ เขานั้นมีความคิดที่จะไม่อยากมีชีวิตคู่กับใคร
เพราะเขานั้นไม่มีความเชื่อ ในความรักจนกระทั่งมาเจอ แอรอนที่เป็นทนายความด้าน อสังหาริมทรัพย์และมีนิสัย ที่แตกต่างกับบ็อบบี้โดยสิ้นเชิง ทั้งคู่นั้นกำลังหลงใหลในความโสด จึงร่วมมือกันสำรวจความสัมพันธ์ครั้งใหม่ และหาคำตอบของหัวใจตัวเองให้เจอไปด้วย
ทั้ง บ็อบบี้ และ แอรอนก็ได้ทำงานร่วมกันและเข้าขากันดีมาก ทำให้ทั้งคู่เชื่อมต่อกันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือการพูดคุยก็ดูเหมือนจะไปได้ดี แต่เขาก็ต้องเจอเรื่องราวมากมาย อย่างความหลากหลายทางเพศ ความแตกต่างของสังคม ที่มีทั้งเปิดใจยอมรับและไม่เปิดใจยอมรับ หรือจะเป็นแบบทดสอบอีกมากมาย ที่เป็นตัวตัดสินใจความสัมพันธ์ระหว่าง บ็อบบี้และแอรอน
หนังเรื่องนี้ถึงแม้ กระแสการตอบรับจะค่อนข้างแย่ แต่มันก็ไม่ได้แย่ เพราะตัวหนังทำออกมาไม่ดี จริงหรือ?
แต่เป็นเพราะหญิงชายแท้ในยุคนั้น ยังไม่ยอมรับเรื่องความหลากหลายทางเพศ จึงเป็นเหตุทำให้หนังมีรายได้น้อย และไม่เป็นที่นิยมในกลุ่มคนส่วนใหญ่ แต่ด้วยฉากและตัวนักแสดงนั้น ถือว่าทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เข้าถึงบทบาทของตัวละครนั้น ๆ แสดงได้เข้าถึงอารมณ์คนดู ดีทั้งอารมณ์นักแสดง สถานที่ถ่ายทำ แนวคิด และสไตล์การใช้ชีวิตประจำวันต่าง ๆ ที่หลากหลายของตัวละคร
และตัวละครเองก็มีการเคารพกัน ในทุกความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น มีมุมมองที่แตกต่างให้แลกเปลี่ยน พูดคุยกันในฉากหนัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ รสนิยมทางเพศ ประเด็นการใช้ชีวิตคู่ ของตัวละครนั้นหรือ ปมความสัมพันธ์
รีวิวหนัง-ซีรีย์ฝรั่ง ทำให้หนังเรื่อง BROS เป็นได้ทั้งหนัง โรแมนติก คอมเมดี้ ดราม่า หรือสอนใจคนดูทุกคนในเรื่องต่าง ๆ มากมาย และช่วยให้บางคนได้เปิดใจยอมรับ LGBTQ+ หรือ หนังความหลากหลายทางเพศ ถึงแม้ว่าในอดีตหนังเรื่อง BROS จะไม่เป็นที่ยอมรับของใครหลายคน เหมือนกับใครที่ชอบ ดูซีรีย์เกาหลีย้อนยุค
แต่ปัจจุบันนี้ดันมีใครหลายคนเลือกที่จะดู และเปิดใจไปพร้อมกับหนังเรื่องนี้เยอะมาก เพราะเนื้อเรื่องก็ไม่มีการกล่าวเกินจริง แต่กล่าวถึงชีวิตจริงของใครหลายคนและในหลายความสัมพันธ์ เพื่อให้ได้ข้อคิดดีๆจากการรับชมมาปรับแก้ไขในชีวิตจริงได้
และปัจจัยที่ให้คน ดูซีรีย์ฝรั่งพากย์ไทย ชอบหลัก ๆ เลยคือ ตัวละครค่ะเพราะตัวพระนายนั้นต่างจากหนังโรแมนติกคอมแมนดี้เรื่องอื่นโดยสิ้นเชิง เพราะเหล่าตัวละครไม่ได้มีข้อดีหรือสมบูรณ์แบบทุกคน แถมยังมีข้อบกพร่องมากมาย ซึ่งเต็มไปด้วยความเป็นมนุษย์ที่คนดูสามารถรับรู้และเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าตัวละครนั้นกำลังรู้สึกอย่างไร และมีข้อบกพร่องตรงไหน มีการเผยแผ่วัฒนธรรมของ LGBTQ+ อย่างเกย์ที่มีจุดยืนอย่างไร ชอบทำอะไรและมักจะเอาเรื่องที่ดูซีเรียสมาทำให้เป็นเรื่องตลกได้ด้วย
ความหลงใหลในร่างกาย การใช้แอปพลิเคชันหาคู่ การมีความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด ความสัมพันธ์ระยะยาว การมีความสัมพันธ์แบบหลายคนและมีการเจาะลึกไปถึงเรื่องบนเตียงอีกด้วย ซึ่งอลิสถือว่าค่อนข้างเปิดโลกเลยค่ะ สำหรับหนังเรื่องนี้
ตัวหนังถูกถ่ายทอดออกมา อย่างเป็นธรรมชาติทุกอย่าง และเพื่อตอกย้ำความจริงว่า เราไม่ควรไปตัดสินคน ที่มีความหลากหลายทางเพศ เป็นคนดี คนชั่ว หรือตัวประหลาด หรือ ลบ คม ใครเพียงเพราะพวกเขาไม่เหมือนเรา เพราะพวกคน LGBTQ+ นั้น เขาก็เป็นแค่มนุษย์กลุ่มหนึ่ง และมีความคิดมีอะไรที่สมบูรณ์แบบ เหมือนชายหญิงทั่วไปในสังคม
Brothers Pantip สะท้อนถึงมุมมองของคนที่ไม่ใช่ LGBTQ+ ด้วยว่ามีมุมมองอย่างไรและมีผลกระทบอย่างไรบ้าง
เช่น การถูกเหยียดเพศ หรือถูกกีดกันทัศนคติของสังคมเหยียดเพศอีกด้วย และผลกระทบของสิ่งที่เหล่า LGBTQ+ ต้องแลกเมื่อเขาตัดสินใจประกาศตัวว่าตนนั้นเป็นคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ทำให้โอกาสในการทำอะไรหลาย ๆ อย่างก็ถูกบีบจำกัดทันที
เป็นการแสดงถึงอิสระ ว่าพวกเขาไม่ได้แค่ต้องการ ที่จะมีความสัมพันธ์อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังต้องการอิสระในการทำอะไรหลาย ๆ อย่างโดยไม่ต้องเสียความฝันดี ๆ ของตัวเองไปเหมือนคนอื่นบ้าง และอยากที่จะถูกยอมรับโดยไม่ถูกเหยียดเพศแทน หรือระบบการศึกษา ที่ไม่ได้มีการกล่าวถึง บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศเลย โดยให้ความเชื่อว่าเด็กเกินไป ที่ต้องมาเรียนรู้เรื่อง LGBTQ+
ทำให้มีผลกระทบถึงการที่ เด็กมีความหลากหลายทางเพศแต่ไม่รู้ตัวเอง และมีความโดดเดี่ยว อึดอัด และกดดัน ในการใช้ชีวิตแบบไม่มีอิสระ พอไม่มีพื้นฐานความรู้ที่ถูกต้องของความหลากหลายทางเพศในวัยรุ่น ก็จะเกิดการเหยียดกันมากขึ้น และบางคนอาจจะต้องใช้ชีวิต แบบไม่มีความสุขในสิ่งที่เป็นต่อไป เพียงเพราะไม่ได้ถูกยอมรับในสังคม ทำให้ผู้คนเหล่านี้อาจจะมีความรู้สึกว่า เจ็บเกินธรรมดา และอาจจะถึงขั้นรุนแรง เช่น มีการทำร้ายตัวเองจนถึงแก่ชีวิต
ซึ่งหนังเรื่องนี้ ก็ไม่ได้ถูกสร้างให้เหล่า LGBTQ+ เป็นผู้ถูกกระทำด้วย แต่สร้างให้มีรูปแบบความคิด และเนื้อเรื่องที่เป็นกลาง เพื่อไม่ให้เกิดข้อขัดแย้งกันของสังคมในโลกความเป็นจริง
หากใครที่กำลังหาหนังดี ๆ ที่ไม่ใช่แนว ตะลุย พิภพ ดูสักเรื่องอลิสขอแนะนำเรื่อง “BROS เพื่อนชาย?” เพราะหนังเรื่องนี้สนุกมากจริง ๆ ค่ะมีครบรสหลากหลายอารมณ์ ตอนจบก็ถือว่าจบดีด้วย ในหลาย ๆ ฉากการแสดงความสามารถ ดูออกได้เลยว่านักแดงตีบทแตกทุกคนจริง ๆ ค่ะ และได้ผู้กำกับอย่าง บิลลี่ อิชเนอร์ ที่เข้าร่วมแสดงไปด้วยทำให้ ทุกอย่างดูลื่นไหลมากขึ้นไปอีก
หนังเรื่องนี้ให้อารมณ์เหมือนว่า เรากำลังดูชีวิตประจำวันของชายวัย 40 ปีที่เป็นเกย์ และตามดูความสัมพันธ์ หรือเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้น ในชีวิตของชายและเพื่อนชายของเขาเองอีกด้วย
และก็มีนักแสดงอย่าง ลุค แม็คฟาร์เลน ที่มีหุ่นดีดึงดูดเก้งกวางให้เข้ามาดูอีก ซึ่งการแสดงของเขาก็ถือว่าเข้าขากันมาก ลื่นไหลเป็นธรรมชาติ สอดแทรกแนวคิดทัศนคติ ให้คนเริ่มทำความเข้าใจ และเปิดใจกับความหลากหลายทางเพศ ที่มีอยู่แบบไม่พยายาม ที่จะยัดเยียดพวกคนดูแทน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก และถือว่าเป็นหนังที่ดีที่สุด ในใจของใครหลายคนก็ว่าได้
ซึ่งในตอนสุดท้ายที่หนังเรื่องนี้ ได้ฉายจบไปแล้ว บิลลี ไอค์เนอร์ ได้มาเขียนข้อความไว้ด้วยค่ะ โดย “บิลลี ไอค์เนอ” เขียนไว้ว่า “Rolling Stone เลือก BROS ให้ติดอันดับ หนังตลกที่ดีที่สุดของศตวรรษที่ 21
แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็เป็นเรื่องจริงที่มีเครือหนังแห่งหนึ่ง พยายามถอดตัวอย่างของ BROS ออก เพราะหนังมีเนื้อหาเกี่ยวกับเกย์ (Universal ก็พยายามต่อสู้ไม่ให้พวกเขาทำแบบนั้นแล้ว”
แล้วพบกันใหม่ได้ในครั้งหน้า อลิสฝากติดตาม ผลงานการเขียนเรื่อง สปอยอาฟเตอร์4 2021 ไว้ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันค่ะ สำหรับครั้งนี้ต้องลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ
เขียนโดย อลิส